ทริปสุดชิล 3 วัน 2 คืน: สำรวจเพชรบุรี – ประจวบคีรีขันธ์ แบบวัยรุ่นต้องลอง
57 ครั้ง

หากคุณเบื่อความวุ่นวายของกรุงเทพฯ และอยากจะออกไปเสาะแสวงหาความสงบและธรรมชาติที่สวยงาม ไปจนถึงสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจ เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์คือคำตอบ มาเตรียมตัวกันเลยสำหรับทริปนี้ ที่จะพาคุณไปทั้งเที่ยวทั้งชิลแบบสุด ๆ

Day 1: เพชรบุรี – เมืองแห่งศิลปะ วัฒนธรรม และของอร่อย

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง)

เริ่มต้นการเดินทางด้วยการสำรวจ “อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี” หรือ พระนครคีรี หรือ เขาวัง เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยพระองค์ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเป็นพระราชวังฤดูร้อน โดยออกแบบผสมผสานศิลปะแบบไทย จีน และตะวันตกเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว นอกจากนี้พระนครคีรีที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงทำให้มองเห็นวิวเมืองเพชรบุรีได้แบบพาโนรามา นักท่องเที่ยวสามารถชมทัศนียภาพของตัวเมืองเพชรบุรีและแม่น้ำเพชรบุรีที่ไหลผ่านเมืองได้อย่างสวยงาม 

ถ้ำเขาหลวง

ไปต่อที่ “ถ้ำเขาหลวง” ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความลึกลับ เนื่องจากถ้ำอยู่บนยอดเขา การเดินทางไปยังถ้ำนี้จึงพาคุณผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามและทิวทัศน์ของเขาและป่าไม้อันเขียวขจี ชื่อเสียงของถ้ำเขาหลวงเกิดจากความงดงามของหินงอกหินย้อยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ภายในมีปล่องที่แสงอาทิตย์สามารถส่องเข้ามาภายในถ้ำได้ทำให้สวยงามยิ่งขึ้น และพระพุทธรูปโบราณที่ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำ ทำให้บรรยากาศดูขลังเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว

ร้าน “ข้าวแช่แม่เอื้อน (ข้าวแช่กาชาด)” 

“ข้าวแช่แม่เอื้อน” ร้านอาหารเก่าแก่กว่า 60 ปีในจังหวัดเพชรบุรี ที่เสิร์ฟข้าวแช่เมืองเพชรกลิ่นหอมกรุ่น พร้อมเครื่องเคียงหลากหลาย รสชาติกลมกล่อมและสดชื่น เหมาะสำหรับรับประทานในช่วงอากาศร้อน บรรยากาศร้านอบอุ่นและเป็นกันเอง ร้านมีโต๊ะไม้เล็ก ๆ ตั้งขายริมทางด้านหน้ากาชาดจังหวัดเพชรบุรีในอำเภอเมือง จากสถานที่ตั้งนี่เองที่ทำให้คนท้องถิ่นเรียกกันติดปากว่า “ข้าวแช่กาชาด”

ชายหาดชะอำ

ปิดท้ายวันด้วยการพักผ่อนที่ “ชายหาดชะอำ” จุดหมายปลายทางยอดฮิตสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนริมทะเลแบบสบาย ๆ ชายหาดชะอำมีหาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใส และบรรยากาศที่เงียบสงบ พร้อมด้วยอาหารทะเลสดๆ เช่น กุ้งเผา หอยเชลล์ย่างเนย และปลาหมึกย่างจากร้านริมทะเล ฯลฯ เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบครอบครัว คู่รัก หรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่

Day 2: ประจวบคีรีขันธ์ – ธรรมชาติและวิถีชุมชน

หาดหัวหิน 

“หาดหัวหิน” ชายหาดยอดนิยม มีน้ำทะเลใสและทรายขาวละเอียด เหมาะสำหรับการพักผ่อนทั้งการเล่นน้ำ เดินเล่นริมหาด หรือชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนุก ๆ เช่น ขี่ม้าริมหาด เล่นเจ็ตสกี หรือเดินตลาดหัวหินที่มีอาหารทะเลสด ๆ และของฝากหลากหลาย เช่น อาหารทะเลแห้ง กะปิ ขนมไทย สายปล่อยใจชิลริมทะเลต้องไม่พลาดที่จะเลือกชายหาดหัวหินเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางอย่างแน่นอน

ร้าน “ครัวชมทะเล” 

มาเที่ยวทะเลต้องห้ามพลาดรับประทานอาหารทะเล ขอแนะนำ “ครัวชมทะเล” ร้านอาหารทะเลที่ปรุงด้วยวัตถุดิบสดใหม่และเมนูอาหารไทยหลากหลาย เช่น ปลาทูอบสับปะรด ปลากระพงแซ่บสามร้อยยอด แกงส้มพริกสดมะม่วงกุ้ง เต้าเจี้ยวหลนปู เป็นต้น พร้อมทั้งบรรยากาศสวยงามริมทะเล เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว 

อุทยานแห่งชาติกุยบุรี

“อุทยานแห่งชาติกุยบุรี” เต็มไปด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติและความงดงามของสิ่งแวดล้อม มีพื้นที่ที่ครอบคลุมทั้งป่าเขา ป่าชายเลน และแหล่งน้ำธรรมชาติ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติและการผจญภัย ในการสัมผัสกับความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ป่าและพันธุ์ไม้ที่หายาก หากต้องการสัมผัสกับความงามของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งสัตว์ป่า ป่าเขา และพื้นที่ธรรมชาติที่หลากหลาย ที่นี่คือสถานที่ที่ไม่ควรพลาด จะได้ทั้งความสนุกและการเรียนรู้ธรรมชาติในแบบที่ไม่เหมือนใคร

ตลาดโต้รุ่งหัวหิน

เดินเลือกซื้ออาหาร ของฝาก และสัมผัสบรรยากาศสุดชิลที่ “ตลาดโต้รุ่งหัวหิน” เป็นตลาดกลางคืนที่มีชื่อเสียง คึกคักและเต็มไปด้วยสีสัน ที่นี่จะได้สัมผัสท้องถิ่นพร้อมชิมอาหารทะเลสดใหม่ สตรีทฟู้ดอร่อย ๆ และของใช้ของฝากมากมายในราคาย่อมเยา อาทิ ขนมไทย เบเกอรี่ ปลาหมึกย่าง เสื้อผ้า เป็นต้น อย่าลืมแวะมาเดินเล่นปล่อยใจในตลาดแห่งนี้ 

Day 3: วิถีชีวิตและมุมสงบ 

ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศ ป่าชายเลนสิรินาถราชินี

เริ่มเช้าวันที่สาม ณ “ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศ ป่าชายเลนสิรินาถราชินี” แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ให้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน มาพิสูจน์ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในป่าชายเลน ตื่นตาตื่นใจกับการเดินชมธรรมชาติ ส่องดูนกหายากในพื้นที่ เช่น นกกาเหว่า นกกระเต็นปักหลัก นกตีทอง นกกาน้ำเล็ก เป็นต้น เต็มไปด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติ มาที่นี่รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสความงามของโลกธรรมชาติแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน เป็นอีกแหล่งเรียนรู้ด้านระบบนิเวศป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย และเป็นตัวอย่างของการฟื้นฟูธรรมชาติที่สำเร็จอย่างงดงาม

ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม 

“ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม” ตลาดน้ำย้อนยุคในบรรยากาศรัตนโกสินทร์ ตลาดท้องถิ่นที่สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตของคนไทย  ทั้งอาหารเครื่องดื่ม ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกต่าง ๆ หรือจะทำกิจกรรม เช่น ล่องเรือ ชมวิวทิวทัศน์ 360 องศา ในบรรยากาศท้องถิ่นริมแม่น้ำก็สนุกเพลิดเพลิน นอกจากนี้ยังมีเจ้าแม่กวนอิมหยกขาว สมเด็จพระพุทธาจารย์โต พรหมรังสี หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หลวงปู่ทวดไม้จันทร์หอม และพระบรมฉายาลักษณ์พระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรี ให้นักท่องเที่ยวได้สักการะบูชาอีกด้วย

วัดห้วยมงคล

หมุดหมายสุดท้าย มาไหว้พระที่ “วัดห้วยมงคล” ศูนย์รวมจิตใจของชาวหัวหินและนักท่องเที่ยว ซึ่งประดิษฐานหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก อันเป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนที่เชื่อกันว่า ท่านมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ช่วยปกป้องคุ้มครองผู้ที่เคารพบูชา ทำให้วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ต้องการเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต พร้อมด้วยบรรยากาศภายในวัดที่เงียบสงบ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ทำให้ทริปนี้จบลงด้วยความประทับใจ

การเดินทาง

  • จากกรุงเทพฯ ขับรถไปประมาณ 3 ชั่วโมง หรือจะเลือกนั่งรถไฟสายใต้ก็สะดวกและได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่
  • เมื่อถึงเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ การเช่ารถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์จะทำให้เดินทางได้อย่างสะดวกสบายที่สุด

พร้อมออกเดินทางหรือยัง? ทริปนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสทั้งธรรมชาติ อาหารอร่อย และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ถ้ากำลังมองหาทริปสั้น ๆ ที่จะได้ผ่อนคลายและทำความรู้จักกับจังหวัดที่เต็มไปด้วยสีสันเหล่านี้ อย่ารอช้า เตรียมกล้องให้พร้อม แล้วออกไปลุยกัน

แบ่งปันหน้านี้: